ประวัติย่อหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม
|
|
พระญาณวิศิษฎ์ สมิทธิวีราจารย์ |
|
นามเดิม สิงห์ บุญโท
บิดา เพียอินทวงษ์ (อ้วน)
มารดา นางหล้า
เกิดที่ บ้านหนองขอน ตำบลหัวตะพาน อำเภออำนาจเจริญ
จังหวัดอุบลราชธานี ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู วันที่ ๒๗
มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๒ เวลา ๐๕.๑๐ น. มีพี่น้องร่วมกัน ๗ คน ท่านเป็นคนที่ ๔
และพระมหาปิ่น ปญฺญาพโล เป็นคนที่ ๕
บรรพชา เป็นสามเณรในสำนักพระอุปัชฌาย์ป้อง ณ บ้านหนองขอน
ตำบลหัวตะพาน อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่ออายุ ๑๕ ปี พ.ศ. ๒๔๔๖
บรรพชาอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นสามเณรธรรมยุตในสำนักพระครูสมุห์โฉม
เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๙
อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดสุทัศน์ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๔๕๒ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน)
ขณะดำรงตำแหน่งพระศาสนดิลกเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเสน ชิตเสโน
เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดทัศน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามว่าพระครูญาณวิศิษฎ์
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๐
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระ
มีนามว่าพระญาณวิศิษฎ์สมิทธิวีราจารย์ |
|
หลวงปู่สิงห์
สมัยเมื่อยังเป็นพระหนุ่ม |
|
พ.ศ. ๒๔๕๘ ออกพรรษาแล้วได้เดินธุดงค์ไปกับพระอาจารย์มั่น ภูริทฺตเถระ
เข้าอยู่ในถ้ำภูเขาหอกลอง ในท้องที่อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบล
และในท้องที่เมืองหนองสูงเก่าอำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม
พ.ศ. ๒๔๘๑ - ๒๔๘๓ จำพรรษาวัดป่าสาลวัน
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๔
ได้พิจารณาเห็นอุปสรรคแห่งการประพฤติปฏิบัติพระพุทธศาสนาถึงขั้นสละชีวิตทำความเพียรจึงตั้งสัจอธิษฐานทำความเพียรไม่ได้หลับนอนถึง
๗ วัน ๗ คืน เกิดอาพาธหนักทุกขเวทนากล้าแข็ง และเกิดโทมนัสคับแค้นใจเป็นกำลัง
พิจารณาเห็นว่า
บุญวาสนาไม่เพียงพอจึงตัดสินใจปรารถนาพุทธภูมิสร้างบารมีเพื่อพระโพธิญาณสืบไป
มรณภาพ เมื่อวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๔ เวลา ๑๐.๒๐ น.
ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ที่วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุรวม
๗๒ ปี |
|
เมรุเผาศพหลวงปู่สิงห์
ยังคงเหลือให้เห็นในปัจจุบันที่วัดป่าสาลวัน |
|
|