ประวัติย่อหลวงปู่ขาว อนาลโย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กราบนมัสการหลวงปู่ขาว
นามเดิม ขาว โคระถา
บิดา นายพั่ว โคระถา
มารดา นางรอด โคระถา
เกิด วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๑
อุปสมบท บวชฝ่ายมหานิกายที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ โดยมีท่านพระครูวุฒิศักดิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญจันทร์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้ญัตติเป็นฝ่ายธรรมยุต เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๖๘ เวลา ๑๓.๒๓ น. ณ วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) ขณะนั้น ดำรงค์สมณะศักดิ์เป็นพระครูสังฆวุฒิกร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญ ปญฺญาวโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้อุปสมบทเป็นนาคคู่พร้อมหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร โดยหลวงปู่หลุยเป็นนาคขวาบวชก่อน ๑๕ นาที ได้ฉายาว่า "อนาลโย" แปลว่า "ผู้ไม่มีอาลัย"
การศึกษา ได้รับการศึกษาและแนวทางการปฏิบัติธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ชอบอยู่ตามป่าตามเขา เป็นผู้มีนิสัยเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และมีความเพียรกล้าในอิริยาบถทั้ง ๓ คือ ยืน เดิน นั่ง ท่านชอบนั่งภาวนาจนสว่าง ถ้าไม่มีใจกล้ากัดเหล็กจริงๆ จะทำไม่ได้ ปฏิปทาและประวัติของหลวงปู่ขาวนำมาเป็นคติได้ตลอดดังเช่นในหนังสือปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานที่หลวงตามหาบัวเขียน ส่วนมากจะมีแต่เรื่องหลวงปู่ขาว และเป็นพระที่หลวงตาเคารพสุดขีด และให้ฉายานามหลวงปู่ขาวด้วยความเทิดทูนว่า "เพชรน้ำหนึ่ง"
มรณภาพ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ อัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุสวยงามมาก
สิริอายุ ๙๔ ปี

โอวาทแนวทางการปฎิบัติธรรมของ หลวงปู่ขาว อนาลโย
การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษมีแต่คุณ คือจิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุขไม่มีความทุกข์ จะเข้าสู่สังคมใดๆ ก็องอาจ กล้าหาญ การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้วจะไม่มีความหวั่นไหว ไม่ความเกียจคร้านต่อการงาน ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม จากนั้นก็เป็นปัญญา ที่จะมาเป็นกำลัง เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ จะเรียนทางโลก ก็สำเร็จ จะทำการธรรมก็สำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรมให้เกิดให้มี ขึ้นมาเบื้องต้นตั้งแต่ศีล ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางมาแห่งวิมุตติ คือ ความหลุดพ้นด้วยกัน

จิตไม่รู้เท่าตามความเป็นจริงของสังขารมันจะได้ความสุขมาจากไหนพระพุทธเจ้าสอนไว้คนตาบอดยาก
ที่จะบำบัดโรคตาบอดให้มันตาแจ้งก็มีอยู่คือปัญจกรรมฐานกรรมฐาน๕พระพุทธเจ้าให้น้อมเข้ามาค้นคว้ากรรมฐาน๕นี้
เกศาผม, โลมาขน, นขาเล็บ, ทันตาฟัน, ตโจหนัง, ตะจะปริยันโตมีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ, ปูโรนานัปปการัสสะอสุจิโนเต็ม
ไปด้วยของไม่สะอาดมีประการต่างๆนี้แหละ

ลืมตาขึ้นมาให้มันเห็นแล้วตั้งใจทำอยู่อย่างนั้นไม่ใช่ทำวันเดียวเดือนหนึ่งหรือปีหนึ่งทำเอาตายเอาชีวิตเป็นแดน

เรื่องทำความเพียรถ้าดีแล้วก็ไม่เหลือวิสัยความจะพ้นทุกข์มันมีน้อยมีอยู่ในอัตภาพนี้แหละไม่ได้อยู่ที่อื่นจิตว่าง
เท่านั้นแหละว่างโม้ดทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เกี่ยวข้องไม่ใช่ของตัวของตนมันไม่ยึดมันก็พ้นทุกข์ก็มีสุข

จิตอบรมดีแล้วมันก็บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นจิตเลื่อมประภัสสรจึงเห็นชัดว่าดีแล้วจิตตังทันตังสุขาวหังจิตฝึกดีแล้วนั้น
นำเอาความสุขมาให้ไม่มีที่สิ้นสุด

การเจ็บปวดเมื่อนั่งสมาธิพระพุทธเจ้าว่าให้สู้มันมันจึงจะเป็นทุกขเวทนานั่นสมาธิมันเจ็บให้ดูมันมันเกิดมาจาก
ไหนเวทนามันก็เวทนาต่างหากไม่มีตัวเราการพิจารณาให้รู้เท่านั้นแหละ

ของไม่มีตนมีตัวมันเกิดจากร่างกายนี้อย่างหนึ่งแล้วมันก็รู้สึกถึงจิตรู้ถึงกันจิตก็ไปยึดยึดก็เจ็บหนักเข้าไม่สู้มันต้องสู้มันมันจึงจะเห็น

สติเป็นแก่นของธรรมแก่นของธรรมแท้อยู่ที่สติให้พากันหัดทำให้ดีครั้นมีสติแก่กล้าดีแล้วทำก็ไม่พลาดคิดก็
ไม่พลาดกุศลธรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลอยู่กับสติแล้วสติเป็นใหญ่สติกำลังดีแล้วจิตมันจึงรวมเพราะสติคุ้มครองจิต

พระพุทธเจ้าว่ากำหนดให้รู้ทุกข์ทุกข์มาจากไหนทุกข์มาจากเหตุคือความอยากเป็นอยากมีความอยากมันเกิดมา
แต่เหตุเหตุมันเกิดมาจากไหนเหตุมาจากความไม่รู้ไม่รู้เท่า(ทัน)กายจนกระทั่งความคิดทั้งหลายเข้ามามันก็ไม่รู้ทั้งนั้นคือมันโง่เรียกว่าอวิชชาเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ไม่รู้เท่าเกิดความยินดียินร้ายเกิดความพอใจไม่พอใจเกิดความอยากเป็นอยากมีเป็นเหตุให้วนเวียนเรียกว่าสังสารจักรวัฏฏกา
เวียนอยู่อย่างนั้นเป็นเหตุให้เราเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในภพน้อยภพใหญ่

นรกมันก็อยู่นี่พระนิพพานก็อยู่นี่อย่าไปค้นที่อื่นอย่าไปพิจารณาที่อื่นให้ค้นที่สกนธ์กายของตน
</span> <div align="left"><span class="style11"></span><span class="style11"><BR> <BR> </span> </div> <div style="text-align:right;position:fixed;bottom:3px;right:3px;width:100%;z-index:999999;cursor:pointer;line-height:0;display:block;"><a target="_blank" href="https://www.freewebhostingarea.com" title="Free Web Hosting with PHP5 or PHP7"><img alt="Free Web Hosting" src="https://www.freewebhostingarea.com/images/poweredby.png" style="border-width: 0px;width: 180px; height: 45px; float: right;"></a></div> </body> </html>